งานจ๋าา ทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้!! ทั้งที่เป็นงานที่ชอบ แต่ยิ่งทำงานยิ่งเครียด กลับบ้านไปก็หมดแรง แถมยังรู้สึกปวดเกร็งกล้ามเนื้อไปทั้งตัว ผิวโทรม หุ่นย้วย หน้าดำหมดราศี ไหนจะปวดแสบร้อนท้อง ไม่สดชื่น มึนงง หายใจไม่ทั่วท้อง เบื่อหน่าย ถอนหายใจบ่อยมากเว่อร์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ใครที่กำลังรู้สึกว่ามีอาการแบบนี้อยู่ คุณอาจเป็นโรคเครียดงานไม่รู้ตัว แต่ถ้าให้ชัวร์ลองเช็คตัวเองว่ามีอาการเหล่านี้อยู่รึเปล่า แล้วถ้ามีอาการมากกว่า 3 ข้อ ต้องกลับมาดูแลตัวเองด่วนๆ แล้วค่ะ
1. อ่อนเพลียหมดแรง
นั่งทำงานไม่กี่ชั่วโมงก็อยากจะนอนพักผ่อนซะแล้ว กลับถึงบ้านเป็นต้องทิ้งตัวลงนอนทันที หรือไม่ก็รู้สึกว่าภูมิต้านทานร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ป่วยง่ายแม้เวลาทำงานเท่าเดิม อาการแบบนี้เป็นอาการแรกๆ ที่แสดงให้เห็นว่ากำลังเครียดกับงานที่ทำอยู่ เริ่มมีอาการนี้กันหรือยัง?
2. ปวดขมับทันทีเมื่อรู้สึกกดดัน
ในการทำงานมักจะมีฟีดแบคทั้งดีและไม่ดีเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับคนที่เกิดโรคเครียดงานนั้น เมื่อได้รับฟีดแบคที่ไม่ดี หรือโดนกดดันมากๆ มักจะปวดขมับข้างใดข้างหนึ่งขึ้นมาทันที และอาการนี้จะรบกวนเมื่อเรารู้สึกกดดันมากขึ้น ส่งผลอาจจะทำให้ได้โรคไมเกรนเพิ่มขึ้นด้วยนะ
3. กินไม่เหมือนเดิม
สังเกตได้จากเรื่องกินเลยค่ะ อย่างแรกคือ กินน้อยลง บางคนแทบไม่รู้สึกอยากอาหาร หรือพาลไม่กินไปเลย เครียดแบบนี้ระวังได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ อย่างที่สองคือ กินเยอะมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นการกินเพื่อให้ลืมงานที่แสนเครียด เรียกง่ายๆ ว่าขอมีความสุขกับการกินนั่นแหละ เผลอๆ น้ำหนักพุ่งพรวดไม่รู้ตัว แต่ไม่ว่าจะกินมากไปหรือน้อยไปก็ไม่ดีทั้งนั้น เพราะความเครียดส่งผลต่อระดับฮอร์โมน ทำให้ระบบเผาผลาญแย่ลง ท้องผูกได้นะคะ
4. พลาดในเรื่องเล็กน้อย
ความผิดพลาดถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลาค่ะ แต่สำหรับบางคนที่ทำงานมานานจนคุ้นชิน เรียกได้ว่าเมื่อก่อนไม่เคยทำพลาดเลย แต่ดันมาทำพลาดในดีเทลเล็กๆ ในจุดที่เคยทำมาก่อน แบบนี้ดูแปลกหรือเปล่า! แน่นอนว่านี่ก็เป็นสัญญาณโรคเครียดงานที่แสดงว่าใกล้เครียดจนแทบเสียสติแล้วล่ะ
5. ความอดทนต่ำลง
เมื่อก่อนเจองานหนักแค่ไหนก็สู้ได้ไม่หวั่น เจอความกดดันรุนแรงแค่ไหนก็รับไหว ประนีประนอมสุดๆ แต่ตอนนี้แค่โดนตำหนิ หรือมีชื่อในบทสนทนาแม้เพียงเล็กน้อยก็เก็บมาเป็นอารมณ์ ทั้งโกรธ เสียใจ รอวันเอาคืน หรือหนักเข้าก็ถกเถียงกับเพื่อนร่วมงานกันตรงนั้นเลย ความอดทนต่ำลงเรื่อยๆ แบบนี้ กำลังเครียดเรื่องงานมากเกินไปรึเปล่านะ?!
6. หลับตายังฝันถึงงาน
แม้ว่าเคลียร์งานเสร็จแล้ว แต่หลับตานอนทีไรก็ยังมีใจพะวงถึงงานที่ต้องทำอยู่ดี สมองจะคอยวางแผนงานตลอดเวลาเพราะกลัวงานไม่เสร็จ กดดันตัวเอง อาการอย่างนี้แสดงว่าภายในจิตใจเครียดและกลัวว่าผลลัพธ์จะออกมาไม่ดี แบบนี้อาการหนักนะคะ แนะนำว่าควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากพบว่าเป็นอาการแบบนี้บ่อยๆ นะคะ
7. หมดใจไม่อยากทำงาน
หมดแรงบันดาลใจ?! อาการสุดท้ายที่แสดงออกว่าเครียดสุดๆ ไม่อยากตื่น ไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากเจอหน้าใคร ซ้ำร้ายคือไม่มีไอเดียสร้างสรรค์งานใหม่ๆ อยากทำเพียงแค่นอนเฉยๆ อยู่นิ่งๆ หากมีอาการเหล่านี้บ่อยๆ อาจเสี่ยงต่อการตกงานได้นะคะ
ดูแลตัวเองจากภายใน BE.U ช่วยได้
ถ้าใครมีอาการเบื้องต้นก็แนะนำให้หาเวลาพักผ่อนคลายเครียด ให้เวลากับตัวเอง หยุดพักไปเที่ยว ออกกำลังกาย ทำสมาธิ เพื่อคลายความเครียดและยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพจิตและร่างกาย และที่สำคัญถ้ารู้ตัวว่าเครียดจนกระทบต่อสุขภาพแล้วควรรีบไปพบแพทย์ หรือนักบำบัด จะได้รับคำแนะนำและได้รับการรักษาอย่างถูกต้องนะคะ สุดท้ายสาวๆ อย่าลืมดูแลตัวเองจากภายใน บำรุงเพื่อให้มีผิวที่เรียบเนียน หน้าไม่โทรม ใต้ตาไม่คล้ำ หุ่นเฟิร์มกระชับ บอกลาริ้วรอยก่อนวัยอันควรที่เกิดจากความเครียดและอารมณ์แปรปรวน เพียงกิน BE.U วันละ 2 แคปซูล แค่นี้ก็ช่วยดูแลสุขภาพองค์รวมของสาวๆ เผยผิวสวยกระจ่างใส คืนความมั่นใจ ให้กลับมามีกำลังใจ มีความสุข พร้อมสู้ทุกปัญหา BE.U ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนกลับมาสดใสในเร็ววัน สู้ๆ นะคะ
